รีวิว อิตาลี (ตอนที่ 1) Milan เที่ยวมิลาน ด้วยตัวเองกับครอบครัว แบบสบาย ๆ

เที่ยวเองได้สบาย ๆ ไปเยือนถิ่นมะกะโรนีอิตาลี เข้าโบสถ์ ช็อปปิงที่ outlet สัมผัสประวัติศาสตร์ ล่องทะเลสาบที่งามเหมือนฝัน

สวัสดีครับ เรามาเจอกันอีกครั้ง สำหรับวันนี้จะพาไปเยือนถิ่นแดนมักกะโรนี ศูนย์กลางแฟชั่น ทีมชาติอัสซูรีตามภาษาคอบอลแน่นอน ใช่แล้วครับ เรามากันที่ อิตาลี นั่นเอง

ผมจะพาเที่ยว มิลาน เวนิส ฟลอเรนซ์ ปิซา โรม บรรดาเมืองสำคัญของอิตาลี ซึ่งอันที่จริงผมก็ไปมานานแล้วแต่ไม่มีเวลาเขียนถึงสักที โดยจะค่อย ๆ ทยอยเล่าทีละเมือง เพื่อความสะดวกต่อการติดตาม

OK! วันนี้พอมีเวลาจะขอ share สักเล็กน้อย เกี่ยวกับทริปอิตาลี โดยจะแนะนำ ที่เที่ยวในเมือง มิลาน ของอิตาลีก่อนเป็นแห่งแรก

แต่อันที่จริงอิตาลี มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจกระจายอยู่ทั่วไปในหลายเมือง เมืองที่เราคงคุ้นหูกันดี คงหนีไม่พ้น มิลาน เวนิส ฟลอเรนซ์ ปิซา และขาดไม่ได้กรุงโรม ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย และน่าสนใจมากมาย

ผมจะนำมาเล่าสู่กันฟังครับว่า เมืองมิลานของอิตาลี ....

ไปยังไง ?
เดินทางยังไง ?
พักที่ไหน ?
เที่ยวที่ไหน ?

หวังใจว่าพี่น้องจะมีความสุข และสนุกได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของเรานะครับ (inspired trip)

มิลาน [Milan, Italy]

ไปยังไง ?
นั่งเครื่องบินพี่ คือจะเขียนให้ต้องอ่านทำไม 555
จะไปลำไหน เมื่อไหร่ก็เลือกเลย

ส่วนตัวผมเดินทางเข้าสู่มิลาน ด้วยรถไฟจาก Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เวลา 4 ชั่วโมงก็มาถึงมิลาน อิตาลี ลงที่สถานี Milano Centrale

ทั้งนี้ ใครเคยนั่งรถไฟในยุโรปจะทราบดีว่าบางขบวนคุณไม่ต้องจองมี pass ก็ขึ้นได้เลย แต่สำหรับขบวนที่มาจาก Zurich ที่จะเข้า Milan ต้องจองมิงั้นไม่ได้นะจ๊ะ

อนึ่ง การมีรถไฟความเร็วสูงใช้นะ มันดีนะ สะดวก เอื้อการท่องเที่ยวและการขนส่งทุกรูปแบบ คิดดูว่าถ้าคุณมีบ้านอยู่สักประมาณอยุธยา แต่สามารถมาถึงสยามสแควร์ได้ภายในไม่เกิน 20 นาที แม่งสวรรค์
ชัด ๆ แต่ขออย่ามีคอรัปชั่นในการก่อสร้างนะ และสร้างให้มันดีและเร็วแบบบ้านนอกเมืองนอกเขาจะดีมาก

ตัดภาพมาที่มิลาน

เมื่อมาถึงแล้วก็เริ่มกระบวนการระวังตัวแจ เพราะชื่อเสียงของความมือเบาของคนบ้านนี้ เมืองนี้ มันดังกระฉ่อนไปถึงไหน ต่อไหน

ผมมีนัดกับคณะที่เหลือที่สถานีรถไฟเมืองมิลานแห่งนี้ โดยตกลงจะเจอกันที่ร้าน McDonald บริเวณชั้น 2 ดังนั้นจึงได้จัดแจงลากกระเป๋ามาเจอกับคนอื่น ๆ ณ จุดนัดพบอย่างเร็วรี่

เมื่อสมาชิกรวมตัวกันครบถ้วนก็สั่งอาหารง่าย ๆ มาทานกันให้พอมีแรง แล้วรีบออกเดินทางไป
check-in เข้าที่พักกันโดยด่วน

เดินทางยังไง ?

ในมิลานนี้ เราใช้รถไฟใต้ดินเดินทางเป็นหลัก มี 3 สาย ไปไหนก็ดูเอาไม่ยาก แต่ระวังคนล้วงกระเป๋าเป็นพอ

พักที่ไหน ?

ในมิลาน เราพัก Air Bnb เป็นอพาร์ตเมนท์ของชายหนุ่มชาวอิตาลีชื่อ Mr.Wal ซึ่งเขาคงมีบ้านหลายหลัง แล้วเอาที่นี่มาทำเป็นบ้านพักให้เช่า ขนาดของบ้านใหญ่กำลังดี สามารถจุครอบครัวขนาด 5 คนได้อย่างสบาย

ทำเลก็จัดว่าดี เดินออกมาไม่ไกลก็เจอสถานี Metro เลย

โดยบ้านหลังนี้มี 2 ชั้น ด้านบนเป็นห้องนอนแยก 2 ห้องมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ สบาย ๆ กันไป ด้านล่างมีห้องครัว ห้องทานข้าว และบริเวณนั่งเล่นรับแขก ตรงนี้นอนได้อีก 2 คนชิลด์ ๆ

บันไดขึ้นลงจะอยู่ตรงกลางบ้านเลยครับ ออกแบบมา style อะไรไม่รู้จะแนว loft ละมั้งสงสัย เพราะมันจะเป็นได้เหล็ก เล็ก ๆ หน่อย เอากระเป๋าขึ่นลงจะค่อนข้างลำบาก

ด้านล่าง ในห้องนั่งเล่นมีตู้หนังสือ และโทรทัศน์ แล้วแต่จะต้องการความบันเทิงรูปแบบไหน

แต่บางทีนอนเล่นมือถือก็สบายใจกว่า ส่วนของหนังสือนั้น อ่านไม่ออกเพราะภาษาอิตาเลี่ยน

โดยรวมต้องยอมรับว่าผมประทับใจบ้านหลังนี้ครับ ในแง่สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน สมาชิกทุกคนมีมุมที่พักผ่อนเป็นส่วนตัวของตัวเอง แต่ห้องน้ำอาจต้องแชร์ ๆ กันหน่อย เพราะเหมือนข้างล่างมีแค่ส้วม อาบน้ำไม่ได้ และมีทำเลก็ดีลากกระเป๋าไม่ไกลมาก เหมาะแก่การมาเที่ยวเองเป็นครอบครัว

เที่ยวที่ไหน ?

1. Duomo di Milano

มิลาน ดูโอโม เที่ยวเอง ครอบครัว เที่ยวยุโรป

นางแบบสาวสวยของทริปนี้ คุณแม่ภรรยาผมเองครับ

สูงสง่า ตั้งตระหง่าน ใช้เวลาสร้างแสนยาวนาน บ้างว่าสวยงาม บ้างว่าอัปลักษณ์ เพราะรกรุงรังไปด้วยประติมากรรม อะไรต่อมิอะไรเต็มหมด แต่เอาเถอะถ้าไม่มาที่นี่ก็ไม่เรียกว่าได้มาเยือน เมืองมิลาน

การเข้าชมด้านในต้องซื้อตั๋ว จำได้ว่ามี 2 แบบ 2 ราคา คือแบบ all areas เข้าทุกที่ รวมพิพิธภัณฑ์ด้วย ราคาจะแพงกว่า ส่วนอีกแบบนึงเข้าเฉพาะตัวโบสถ์ แต่ถ้าใครอยากขึ้นไปบนหลังคาเดินชมวิวและถ่ายรูปจากมุมสูงก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกนะครับ

แถวต่อคิวซื้อตั๋วใช้เวลาไม่นาน ท่านก็สามารถเข้ามาสัมผัสความใหญ่โตโอฬาร และความสวยงามของมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน ประเทศอิตาลีได้แล้ว

มหาวิหารแห่งนี้ เป็นวัดในศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก คือ นับถือพระเยซูและแม่พระ ขึ้นตรงต่อพระสันตะปาปาที่กรุงโรม

เห็นสวยงามอลังการแบบนี้ เขาได้ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งหมด 420 ปี โดยตั้งใจสร้างถวายพระแม่มารีย์ที่ประทานบุตรให้ครอบครัวที่มีอิทธิพลสูงในเมืองนี้เมื่อศตวรรษที่ 13 แต่ก็ล่าช้ามานาน เพราะมีทั้งการเปลี่ยนแบบ และบางทีเงินหมด จนมาแล้วเสร็จตอนที่นโปเลียนยกทัพมาถึงและต้องการทำให้เสร็จเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของตัวเอง

2. ศูนย์การค้า Galleria Vittorio Emanuele II

เป็นหนึ่งในห้างที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีลักษณะเป็นเหมือนอาคารกลางแจ้งที่มีทางเดินตรงกลางเชื่อมอาคารแต่ละหลังเข้าด้วยกัน และด้านบนก็มีหลังคาโปร่งแสงคลุมทับอีกชั้นหนึ่ง

ใช้เวลาเดินอยู่พอสมควรเหมือนกัน มันใหญ่เอาเรื่อง คนที่อยากดู Louise Prada ก็มี shop ตั้งอยู่ที่นี่ ราคาจำได้ว่าพอซื้อได้ แต่ไม่ถูกกว่า outlet

สำหรับการเข้าห้องน้ำในบริเวณนี้ ให้ไปเดินหาร้าน Mcdonald ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก จะมีห้องน้ำให้เราปลดปล่อยทุกขังได้

3. Lake Como - Day Trip From Milan

ทะเลสาบโคโม แห่งนี้ กล่าวกันว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีตอนเหนือ
ด้วยสภาพแวดล้อมของภูเขาสวยงามที่เรียงตัวโอบล้อมบริเวณนี้ดุจกำแพงธรรมชาติที่กีดกัน
ความวุ่นวายจากโลกภายนอก จึงทำให้เมืองเล็ก ๆ แถบนี้นำพาความเงียบ สงบ และการพักผ่อนอย่าง
ชิลด์ ๆ มาสู่ผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

การเดินทางเข้าสู่ Lake Como

จริง ๆ แล้วแนะนำว่ากระทู้ Pantip ของคุณ Astrokop ทำไว้ได้ดีมาก แกะรอยจากตรงนั้นได้เลยครับ

ส่วนของผมขอบันทึกไว้คร่าว ๆ ว่า
นั่งรถไฟจากมิลาน ที่สถานี Milano Centrale >> ลงที่สถานี Varenna-Esino >> ต่อเรือไปเมือง Bellagio

รายละเอียดจะประมาณนี้ครับ
8.20 ขึ้นรถไฟจากมิลาน (กินข้าวเช้าที่สถานี หรือซื้อขนมปังมาติดห้องไว้ตั้งแต่เมื่อคืน)
9.23 รถไฟถึงสถานี Varenna-Esino รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปขึ้นเรือครับ
ผมจำตารางเวลาเดินเรือไม่ได้ แต่มาเรื่อย ๆ ครับ ใช้เวลา 15 นาที ท่านก็จะถึง Bellagio เดินเล่น ถ่ายรูป หรือจะหาคาเฟ่ นั่งจิบกาแฟ คุยกันตามประสาคนในครอบครัวก็ happy แล้วครับ

การเดินเท้าเที่ยวหามุมถ่ายรูปในเมืองตากอากาศแห่งนี้ รับรองได้เลยว่าคุณจะมีความสุข หมดเรื่องทุกข์ใด ๆ ทุกสิ่ง

เมือง Bellagio ได้รับสมญานามว่า Pearl of the Lake คือ เป็นเมืองเล็กแต่มีเสน่ห์
ซึ่งผมก็ว่าใช่

จากข้อมูลทางภูมิศาสตร์ เขาบอกว่าทะเลสาบโคโม [ Lake Como] แห่งนี้มีรูปร่างเป็นตัว Y และมีเมืองเล็ก ๆ น้อย ๆ รายรอบ สามารถนั่งเรือจากเมืองนี้ไปเมืองนู้นได้สบาย ๆ โดยเบลลโจเป็นที่ตั้งต้นของการเที่ยวชมเมืองต่าง ๆ รอบ ๆ ทะเลสาบโคโม แห่งนี้

4. เข้าชมวิลลาส่วนตัว - Villa del Balbianello

ท่านต้องนั่งเรือออกจากเมือง Bellagio ไปเมือง Lenno แล้วต่อ Speed Boat ไป Villa ครับ เรือที่ผมนั่งนี่แหละครับ ชื่อเรือ Battello เดินเรือ 15 นาทีก็ถึงที่หมาย คือเมือง Lenno

การขึ้นเรือออกจาก Bellagio ไม่ยุ่งยาก เพราะมันมีท่าเรืออันเดียว ไปดูข้อมูลหน้างานยังเข้าใจได้ครับ

ที่เมือง Lenno บางคนก็เดินขึ้น Villa นะครับ ไม่อยากนั่งเรือ Taxi boat อาจจะอยากประหยัดหรืออยากได้ประสบการณ์ใหม่ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

แต่เดินนะ มันเดินขึ้นเขา ท่านต้องนึกภาพ villa del Balbianello ว่าตั้งอยู่บนยอดเขานะครับ เดินขาลากเลยทีเดียว ผมจึงใช้เรือดีกว่าครับ แถมยังได้ถ่ายภาพสวย ๆ กับเรืออีกด้วย

ในส่วนของตัว Villa แห่งนี้นั้น สร้างมาตั้งแต่ยุคกลางเคยเป็นที่อยู่ของพระชั้นผู้ใหญ่ในศาสนาคริสต์ที่มาปกครองดินแดนแถบนี้ และได้เป็นฉากในภาพยนต์ฟอร์มยักษ์มากมาย เช่น Star Wars, James Bond
เป็นต้น