ตอน แผน 14 วัน การเดินทางทริป West USA (#2)

inspired trip


ตอน แผน 14 วันการเดินทาง ทริป West USA (#2)

ต่อจากที่ค้างไว้ในตอน #1  มาต่อกันที่แผนการเดินทาง วันที่ 4 ถึงวันที่ 9 ของทริปนี้ครับ
ล่องลงไปเรื่อย ๆ เลาะชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกอันงดงาม สัมผัสธรรมชาติที่เราโหยหาแล้ว มุ่งหน้าเข้า LA ไปเจอความเจริญแบบตัวเมือง และเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกระดับโลก 2 แห่งครับ ไปกันเลย



Highway1
วันที่ 4  วันแรกที่ได้ขับรถยนต์ในอเมริกา
ร้านอาหารที่ Monterey
  1. ตื่นนอนแล้ว ลงไปชั้นล่างเขามีกาแฟดำกับครัวซองให้ฟรี แต่เราอาศัยน้ำร้อนเติมมาม่าคัพ อร่อยกว่าใคร แต่ฝรั่งก็มอง ๆ หน้านิดนึง คงออก กลิ่นอะ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
  2. ไปรับรถยนต์ที่เช่าไว้
    >>ลากกระเป๋าไปขึ้นรถรางที่ Market Street เพื่อไปรับรถที่ชั้น 1 ของโรงแรม Hyaat Regency Embarcadero 
  3. รับรถแล้ว ตั้ง GPS มุ่งหน้าไปสู่เมือง Monterey
    >> ได้รถ HYUNDAI Sonata ตอนออกตัวครั้งแรกก็ตื่นเต้นมาก จะเปิดไฟเลี้ยวได้ปัดน้ำฝน จะปัดน้ำฝนได้ไฟเลี้ยว ชิบหายกูจะได้ออกจาก San Francisco ไหม
    >> อันที่จริงตอนแรกที่คิดไปจากเมืองไทยจะไปเที่ยว Muir Woods National Monument ก่อน แต่ดูทรงแล้วกลัวไปถึงที่หมายค่ำมืด แล้วเราจะลำบากเกิดหลงทางอะไรอีก สมมติอะนะ เราก็คิดเผื่อไปหลายอย่าง ก็เลยว่า เอ๊า ยังงั้นอย่าไปมันเลย มุ่งหน้าออกจาก San Francisco ไปเลยดีกว่า
  4. แวะพักรับประทานอาหารเช้าที่ Monterey เป็นเมืองเล็ก ๆ ริมทะเลที่เงียบ สงบ สวยงาม และมีทัวร์ไปดูปลาวาฬด้วยนะ แต่ไม่ได้ไปอะ เราไปกลัวเดี๋ยวมันไม่มา 555
  5. วิ่งรถเข้าเมือง Carmel-by-the-sea แล้วไปเช็คอินเข้าที่พักชื่อ Sandpiper Inn
    บรรยากาศในเมือง Carmel-by-the-sea
  6. เก็บของแล้วไปขับรถเล่นตาม Highway 1ถ่ายรูป ชมวิว
    >> โดยบังเอิญ ได้พบร้าน Rockey Point ที่วิวสวยงามอย่างมาก เราอุดหนุนเขาเป็นกาแฟลาเต้เย็น ซึ่งก็ตามระเบียบฝรั่ง งง และไม่ค่อยชอบใจ มันคงคิดว่าของแบบนี้ต้องกินร้อน ๆ กะเหรี่ยงเอ๊ย แต่ก็ช่างพี่เหอะครับ ผมสะดวกแบบนี้ เอาตังค์ไป เอากาแฟมา บรัยย
  7. กลับมาในเมือง Carmel-by-the-sea เดินเล่น ซื้อของ หาข้าวเย็นกิน
    >> ได้ไปชมร้านขายของน้องหมาในเมืองด้วย ของเขาหลากหลายกว่าจริง ๆ โดยเฉพาะนวัตกรรมเกี่ยวกับอาหารสุนัข คือฝรั่งเขาเลี้ยงอย่างจริงจังมาก ทำให้ผู้ประกอบการก็ต้อง serve demand ตรงนี้ของผู้บริโภคอย่างสุดฤทธิ์เลย
  8. เข้านอน


ของที่นำมาวางขายในเมือง Carmel-by-the-sea นี้มีแต่กระจุ๊กกระจิ๊กน่ารัก ๆ

วันที่ 5 Big Sur แล้วเข้า Los Angeles
วิวจากร้าน Rockey Point
  1. ตื่นนอน
    >>ทานเช้าที่โรงแรมเลย โดยเขาได้จัดคุณแม่บ้าน มารอทำอาหารให้แขกที่มาพักทาน บรรยากาศก็น่ารักอบอุ่น Friendly มากเพราะมีแค่ไม่กี่ห้องแขกก็ไม่ถึง12-15คน เพราะฉะนั้นท่านจะได้ความรู้สึกเหมือนกับว่าไปนอนพักบ้านเพื่อนเลย ส่วนเมนูอาหาร จำได้ว่าตอนนั้นมี 2 เมนูให้เลือก ระหว่าง คิชแฮม กับขนมปังอะไรสักอย่าง เราเลือกกินคิชแฮม อร่อยมาก 
  2. ขับรถไปแวะ Point Lobos
    >> ก็เป็นจุดชมวิว จอดรถข้างนอกแล้วเดินเข้าไปไม่เสียเงิน แต่ถ้าเข้าไปจอดข้างในเสีย 10 USD ต่อคัน ในนั้นบางมุมมีแมวน้ำกลุ่มเล็กๆ ให้ได้ดู ติดว่าฝนตกปรอยๆ เลยไม่ได้อยู่นาน กลัวเป็นไข้ 

บรรยากาศที่ Sandpiper Inn @Carmel-by-the-sea

วิวริม Highway 1







3.  มุ่งหน้าเข้า Los Angeles
     >> ระหว่างทางก็แวะเติมน้ำมัน และหาของกินกลางวันตามแต่ความหิวจะบันดาล ตามแต่ละ Exit จะมีร้านอาหารตลอด
4. ไปเช็คอินน์ที่ Motel ชื่อ The Coral Sands Motel
    >> เหมือนในหนังฝรั่งเลย ก็อย่าไปคาดหวังมากนัก มันก็พออยู่ได้ แต่กลิ่นพรมนะ อย่าให้พูด กลัวผีหลอกด้วย แต่ก็ไม่มีอะไร รอด ๆ
5. เข้านอน
    >> เย็นนี้รู้สึกเหมือนจะได้กินมาม่าเข้าไปเป็นอาหารเย็นนะ ถ้าจำไม่ผิด เพราะว่าพอมาถึงก็จะค่ำแล้ว แถมเพลีย แล้วพรุ่งนี้ต้องไปอีกหลายจุด เลยขอนอนเลยดีกว่า

วันที่ 6 LA City Tour
หอดูดาว Griffith @LA 
  1. หอดูดาว Griffith
    >> จากภาพยนต์เรื่อง LA LA LAND สวดมนต์ดี ๆ ก่อนขับรถขึ้นไปเดี๋ยวไม่มีที่จอด
  2. กินก๋วยเตี๋ยวเรือร้านป้าอ๊อด
    >> กินยันอ้วก คืออยาก...มากสั่งเยอะ เป็นไงไม่หมด คือ ชามมันใหญ่มาก ถามว่าสั่งก๋วยเตี๋ยว
    เหรอ เปล่า ต้มข่าไก่ กับข้าวผัดกระเพราข้าวคลุก 

Hollywood Walk of Fame

3.   Hollywood Walk of Fame
      >> ไปเดินตามดูรอยพิมพ์มือดารา และคนดัง อากาศค่อนข้างร้อน เอารถไปจอดในห้างตรงนั้นเลยด้วย รู้สึกเก่งกล้าสามารถมาก 
4.  Bevery Hills
     >> มีทัวร์พาชมเลยว่าบ้านหลังไหนเป็นของใคร แต่เราไม่ใช่ทางนี้เลยขอแวะมาถ่ายรูปกับป้ายและเดินดู ๆ ก็พอใจละ
5.  แวะร้านขายของน้องหมาชื่อ Healthy Spot ของที่นี่ก็จะ up ราคาและคุณภาพขึ้นมาจากพวก PETCO / PETSMART
6.  กลับไปหาข้าวเย็นกินแถว ๆ โรงแรม และนอนเอาแรง เพราะวันรุ่งขึ้นจะไปตะลุย Universal Studio
วันที่ 7  Universal Studio Hollywood
Universal Studio Hollywood
ฉากหนังเครื่องบินตกใน Universal Studio
เจ้ามินเนี่ยน


  1. ออกจากที่พัก ไปแวะสตาร์บัคแถวโรงแรมกินกาแฟและอาหารเช้า
  2. ลงใต้ดินไป Universal Studio นั่งไม่นานก็ถึงที่หมาย
  3. นัดพบเพื่อนของเราที่แถว ๆ ลูกโลกหมุนได้
  4. เก็บเครื่องเล่น 
  5. มีแวะร้านของน้องหมาอีกเล็กน้อย
  6. กลับที่พัก
วันที่ 8  Disneyland

มาถึงสักที ดิสนีย์แลนด์ LA ที่หมายหลักของทริปนี้


แล้วก็ไม่พลาด ขอลายเซ็นต์เพื่อนเก่าแต่เยาว์วัย มิกกี้


ร้อนแต่ก็ขอมุงดูด้วย โชว์อะไรกัน


ปราสาทดิสนีย์ เข้าไปข้างใน เดินขึ้นไปได้ มีการจัดแสดงนิทานเรื่องเจ้าหญิงนิทราไว้ตามทางเดินด้วย


พลาดไม่ได้พาเหรดสุดอลังการ ต้องมาจับจองที่นั่งริมทางเดินกันแต่เนิ่น ๆ

โปรแกรมวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก...
  1. ขับรถออกจาก LA 
  2. ถึง Anaheim เมืองที่เป็นที่ตั้งของ Disneyland 
  3. เช็คอินเข้าโรงแรมที่พัก
  4. เดินเท้าไปสวนสนุก (ประมาณ 15 นาที)
  5. เก็บเครื่องเล่น
  6. กลับที่พัก
วันที่ 9  Disneyland (Adventure Park)



วันที่สองของสวนสนุกเรามาที่อีกพาร์คหนึ่ง มันจะมีความหวาดเสียวของเครื่องเล่นในระดับที่สูงกว่าอีกพาร์คหนึ่งที่เราไปมาเมื่อวาน


บรรยากาศข้างใน มีหลายโซนหลายอารมณ์ ตรงนี้น่าจะเป็ยโซนที่ทำเลียนแบบ Route66


ถ่ายรูปกับตัวอย่างรถบรรทุกสมัยก่อนสักหน่อย


ไฮไลท์ของที่นี่คือบรรยากาศยามคำ่คืน เขามีโชว์แสง สี เสียงผ่านม่านน้ำ ต้องรีบไปหาที่ยืนนะ ไม่งั้นอดเห็น









  1. ออกจากโรงแรม เดินไปสวนสนุก
  2. เก็บเครื่องเล่น
  3. กลับโรงแรม


วันที่ 10 เข้า Las Vegas
*ต่อตอนหน้านะครับ*





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว อิตาลี (ตอนที่ 1) Milan เที่ยวมิลาน ด้วยตัวเองกับครอบครัว แบบสบาย ๆ

ท่องเที่ยว ทะเล ตอน X2 กุยบุรี with Pumbaa